.

.

Posted in Uncategorized | Comments Off on .

ตลาดรถยนต์ปิคอัพในไทยโตขึ้นมากโดยมีขนาดใหญ่เป็นที่สองของโลกรองจากสหรัฐ

1ในการกำหนดกลยุทธ์การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยให้เป็น ฐานผลิตและส่งออกสู่ตลาดโลกนั้น ได้มีการกำหนด Product Champion ของไทย ทั้งนี้ประเภทรถยนต์ที่มีศักยภาพที่สุดในเวลานี้คือ รถยนต์บรรทุกปิคอัพ ซึ่งปัจจุบันเป็นประเภทรถยนต์ที่มีการผลิตและจำหน่ายมากที่สุดในประเทศไทย คือประมาณ 60% ของการผลิตและจำหน่ายรถยนต์ทั้งหมด ทั้งนี้ในปี 2544 ในจำนวนยอดขายรถยนต์ในไทย 297,052 คัน เป็นรถยนต์ปิคอัพขนาด 1 ตัน จำนวน 168,639 คัน ในขณะเดียวกันก็มีการส่งออกรถยนต์ปิคอัพประมาณ 130,000 คัน จากจำนวนรถยนต์ส่งออกทั้งหมด175,299 คัน นอกจากนี้ ในช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ประเทศไทยมีการผลิตรถยนต์ปิคอัพจำนวน 94,946 คัน คิดเป็นสัดส่วน 64% ของปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งสิ้น 148,346 คัน และมียอดขายรถยนต์ปิคอัพ 70,892 คัน หรือ 60.8% จากยอดขายทั้งหมด 116,626 คัน

ตลาดรถยนต์ปิคอัพในไทยโตขึ้นมากโดยมีขนาดใหญ่เป็นที่สองของโลกรองจากสหรัฐ ยังผลให้บริษัทรถยนต์ต่างประเทศได้เข้ามาลงทุนหรือขยายการผลิตรถยนต์ปิคอัพมากขึ้นตามลำดับ จนหลายบริษัทได้ย้ายการผลิตหรือมีแผนการที่จะย้ายฐานการผลิตรถยนต์ปิคอัพในต่างประเทศมาผลิตในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเพื่อการส่งออกด้วย ไม่ว่าจะเป็นมิตซูบิชิ หรือฟอร์ด-มาสด้า ยิ่งไปกว่านั้น จากการปรับสิทธิประโยชน์การส่งเสริมการลงทุนของบีโอไอเมื่อต้นปี ที่อนุญาตให้ผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนที่มีคุณสมบัติและเงื่อนไขตามที่กำหนดเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานในเขต 1 ได้นั้น ก็ทำให้บริษัทรถยนต์ต่างประเทศสนใจจะย้ายฐานการผลิตมายังไทยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น โตโยต้า อีซูซุ ฯลฯ และเนื่องจากปัจจุบัน การผลิตรถยนต์ปิคอัพในไทยมีการใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศในสัดส่วนที่สูงมากเกือบ 100% ของมูลค่ารถยนต์ รถยนต์ปิคอัพจึงเปรียบเสมือนผลผลิตของประเทศไทย แม้จะยังใช้ยี่ห้อต่างชาติ ดังนั้น จึงไม่น่าประหลาดใจเลยว่า ทำไมประเทศไทยจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์เพื่อการส่งออกด้วยการเลือกรถยนต์ปิคอัพให้เป็น Product Champion สอดคล้องกับการที่บริษัทรถยนต์ชั้นนำของโลกได้เลือกให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถยนต์ปิคอัพเพื่อส่งออกไปยังตลาดโลก

Posted in ครบเครื่องเรื่องรถ | Comments Off on ตลาดรถยนต์ปิคอัพในไทยโตขึ้นมากโดยมีขนาดใหญ่เป็นที่สองของโลกรองจากสหรัฐ

อุตสาหกรรมรถยนต์ได้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม

011

อุตสาหกรรมรถยนต์ได้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งนี้รัฐบาลไทยได้เริ่มมีนโยบายด้านอุตสาหกรรมรถยนต์มาตั้งแต่ในช่วงของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 2 อย่างไรก็ตาม ตลอดระยะเวลากว่า 3 ทศวรรษที่ผ่านมา การพัฒนาอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศไทยได้เน้นที่การทดแทนการนำเข้าเป็นหลัก อุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยจึงได้เติบโตภายใต้นโยบายคุ้มครองอุตสาหกรรมภายในประเทศ ด้วยมาตรการต่างๆจากภาครัฐ รวมทั้งมาตรการบังคับให้โรงงานรถยนต์ต้องใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศในสัดส่วนที่กำหนดมาตั้งแต่ปี 2518 ก่อนที่เพิ่งจะมายกเลิกเมื่อปี 2543 นี้เอง ยังผลให้มีการพัฒนาและการเติบโตของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนในประเทศเคียงคู่กับอุตสาหกรรมรถยนต์จนทุกวันนี้ อย่างไรก็ตามในระยะต่อมา การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยได้ค่อยๆเติบโตขึ้นเป็นลำดับ ก่อนจะมาขยายตัวอย่างมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2544 มูลค่าส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยสูงถึง 117,614 ล้านบาทซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของมูลค่าสินค้าส่งออกของไทย รองจากเครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ แผงวงจรไฟฟ้า และเสื้อผ้าสำเร็จรูป หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 619 ภายในเวลาเพียง 5 ปี เทียบกับมูลค่าส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนในปี 2539 ที่มีเพียง 16,357 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 24 ของสินค้าส่งออกจากไทยในปีนั้น ยิ่งไปกว่านั้น ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้ มูลค่าส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนของไทยก็ยังขยายตัวร้อยละ 8.9 เป็น 27,786 ล้านบาท ทำให้เลื่อนขึ้นมาเป็นอันดับ 3 แซงหน้าเสื้อผ้าสำเร็จรูปไปแล้ว

เดิมการผลิตรถยนต์สำเร็จรูปของไทยได้เน้นที่ตลาดภายในประเทศเป็นหลักในขณะที่มีการส่งออกในสัดส่วนที่น้อยมาก แม้กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้คือ ในปี 2539 ซึ่งยอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศสูงสุดถึง 589,126 คัน ในขณะที่มีการส่งออกเพียง 14,000 คัน แต่หลังจากนั้นภาวะการผลิตและจำหน่ายของอุตสาหกรรมรถยนต์ของไทยก็เกิดการพลิกผันครั้งใหญ่ เมื่อเกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้นในปี 2540 ยังผลให้อำนาจซื้อของประชาชนหดหายไป ทำให้ยอดขายรถยนต์ในประเทศลดลงเหลือ 363,156 คัน ในปี 2540 และตกต่ำที่สุดในปี 2541 โดยมียอดขายเพียง 144,056 คัน ก่อนที่จะค่อยๆ กระเตื้องขึ้นเป็นลำดับจนมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 297,052 คัน ในปี 2544 ที่ผ่านมา ในทางตรงข้าม ปริมาณการส่งออกรถยนต์กลับเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จาก 14,000 คันในปี 2539 เป็น 42,218 คัน ในปี 2540 หรือเพิ่มขึ้น 3 เท่าในเวลาเพียงปีเดียว จนล่าสุดปี 2544ที่ผ่านมา ปริมาณส่งออกสูงถึง 175,299 คัน หรือเพิ่มขึ้นถึง 12.5 เท่าในเวลาเพียง 5 ปี

Posted in ครบเครื่องเรื่องรถ | Comments Off on อุตสาหกรรมรถยนต์ได้ถูกกำหนดให้เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมหลักในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรม

เทคนิคการเลือกซื้อรถให้เหมาะกับตัวเอง

การเลือกซื้อรถในงานโชว์ต่างๆอาจจะเป็นเรื่องที่ไม่ค่อยมีใครคุ้นเคย เนื่องจากคนส่วนใหญ่ที่ไปเดินในงานจะมีเพียงส่วนน้อยที่ตัดสินใจในการซื้อรถ แต่ความจริงแล้วเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องยาก มาดู 5 วิธีในการช่วยให้คุณสามารถเลือกซื้อรถที่ถูกใจได้แบบไม่ต้องมาเสียใจทีหลัง Continue reading

Posted in ครบเครื่องเรื่องรถ | Comments Off on เทคนิคการเลือกซื้อรถให้เหมาะกับตัวเอง

ข้อควรรู้ในการซื้อรถมือสอง สำหรับผู้ที่มีงบประมาณน้อย

ในปัจจุบันตลาดรถยนต์มือสองกำลังบูมอย่างมาก มีการซื้อขายและการประมูลไม่เว้นแต่ละวัน เต็นท์ขายรถต่าง ๆ ก็ผุดขึ้นมารองรับการซื้อราวกับดอกเห็ด ทำให้ผู้ซื้อมีโอกาสในการเลือกซื้อมากขึ้นด้วยสนนราคาที่ถูกกว่ารถใหม่คุณภาพก็พอใช้ถ้าเลือกกันดี ๆ ซึ่งคนธรรมดาที่มีเงินทองไม่มากนักก็พอที่จะเลือกซื้อมาเป็นของเจ้าของได้ ถึงอุปกรณ์ชิ้นต่าง ๆ ของรถมือสองกันบ้าง ซึ่งก็บ่งบอกอย่างชัดเจนว่าเป็นรถที่เคยผ่านการใช้งานมาแล้ว ดังนั้นสภาพต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ของเครื่องยนต์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็ต้องมีส่วนลึกหรอบ้าง จะมากบ้างน้อยบ้างก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน และเจ้าของรถเดิมว่าใช้งานถนอมแค่ไหน การรเลือกซื้อรถยนต์ประเภทนี้ต้องคิดมากทีเดียวบางครั้งซื้อแล้วต้องมานั่งซ่อมอีก ซึ่งเป็นเรื่องไม่คาดคิดมาก่อนเพราะตอนแรกดูสภาพดีแต่เมื่อมาใช้งานจริงแล้วปัญหาต่าง ๆ กลับตามมา เพราะขาดความเข้าใจและไม่รู้หลักในการเลือกซื้อรถยนต์ใช้แล้ว หรืออาจจะเป็นเพราะถูกหลอกจากคนรู้จัก ท่านจึงควรมีความรู้เกี่ยวกับการเลือกซื้อรถยนต์ใช้แล้วบ้างเผื่อท่านคิดจะมีรถแบบนี้ไว้ใช้สักคัน Continue reading

Posted in ครบเครื่องเรื่องรถ | Tagged , | Comments Off on ข้อควรรู้ในการซื้อรถมือสอง สำหรับผู้ที่มีงบประมาณน้อย

สิ่งผิดปกติที่คุณควรใส่ใจเกี่ยวกับรถยนต์ของคุณ

รถยนต์

1. ใช้เวลาสตาร์รถนานกว่าที่เคย

โดยปกติจะเวลาติดเครื่องยนต์ไม่เกิน 30 วินาทีหรือไม่ควรพยายามติดเครื่องยนต์แล้วไม่สำเร็จเกิน 3 ครั้ง ซึ่งอาการนี้อาจหมายถึงแบตเตอรี่รถยนต์ของคุณมีอาการเสื่อมแล้วได้

2. พบร่องรอยน้ำมันตามทางที่ขับผ่าน

หากคุณสังเกตพบว่าทางที่คุณขับผ่านมามีรอยน้ำมันหยดอยู่โดยที่ก่อนหน้านั้นยังไม่มีหรือจอดรถแล้วพบน้ำมันเครื่องหยดลงพื้น คุณควรนำรถเข้าตรวจสอบหาความปกติโดยเร็ว

3. ควันขาวจากท่อไอเสียของรถ

โดยปกติจะไม่เกิดขึ้น หากว่าเกิดควรนำรถเข้าตรวจสอบเพราะอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ

4. ตอนเบรกมีเสียงผิดปกติเกิดขึ้น

หากตอนเหยียบเบรกแล้วคุณได้ยินเสียงคล้ายเสียงหนูร้อง แสดงว่าผ้าเบรกของคุณอาจจะเริ่มเสื่อมสภาพแล้ว ควรตรวจสอบเพื่อความปลอดในการขับรถ

5. เร่งเครื่องยนต์แล้วรู้สึกว่าช้ากว่าเดิม

อาจเกิดจากน้ำมันเครื่องเสื่อมสภาพ ให้ลองเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องดู หากไม่หายจากอาการนี้ อาจจะต้องลองตรวจสอบตัวกรองน้ำมันเชื้อเพลิงหรือตัวกรองอากาศดู และหากไม่ดูแลรักษาอาการนี้จะส่งผลต่ออัตราความสิ้นเปลืองของเชื้อเพลิง ดังนั้นควรตรวจสอบและแก้ไขโดยเร็วจะดีกว่า

Posted in Uncategorized | Comments Off on สิ่งผิดปกติที่คุณควรใส่ใจเกี่ยวกับรถยนต์ของคุณ